โหดสุด กองทัพพม่า เดินหน้าโจมตีทางอากาศหมู่บ้านกะเหรี่ยง หามคนเจ็บส่งรพ.ไทย
กองทัพพม่า ยังคงส่งเครื่องบิน โจมตีทางอากาศถล่มหมู่บ้านกะเหรี่ยง มีผู้บาดเจ็บกว่า สิบคนถูกนำตัว ส่งโรงพยาบาล ชายแดน ของไทย ขณะที่องค์กรเคลื่อนไหว สิทธิมนุษยชนเรียก ร้องรบ.ไทยรับ ชาวกะเหรี่ยง อพยพ
เมื่อ 30 มี.ค.64 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน กองทัพเมียนมา ส่งเครื่องบินรบบิน โจมตีทางอากาศ ถล่ม หมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง ในรัฐคะฉิ่น ต่อเนื่อง เป็นเหตุให้มี ชาวบ้านกว่าสิบคนได้ รับบาดเจ็บต้องถูกนำตัว อย่างเร่งด่วนส่ง ข้ามชายแดนมารักษาที่โรงพยาบาลในพื้นที่ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ในวันนี้
ก่อนหน้านี้ กองทัพเมียน มาได้ยกระดับ ใช้ความรุนแรง เปิดฉากโจมตี ทางอากาศถล่ม หมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นฐาน ของกองกำลังสหภาพแห่งชาติ กะเหรี่ยง (UFABET) ทางตะวันออกเฉียง ใต้ของ รัฐกะเหรี่ยง มาตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มี.ค. จนทำให้ ชาวกะเหรี่ยงราว 3,000 คนอพยพหนีตายข้ามชายแดนเพื่อขอพักพิงในประเทศไทย
ด้านนายเดวิด อูแบงก์ ผู้ก่อตั้งองค์กรเคลื่อนไหวด้าน สิทธิมนุษย์ ‘Free Burma Rangers’ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยอมรับผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง เนื่องจากราว 2,009 คนถูกผลักดันให้กลับมายังค่ายที่พักที่ Ee Thu Hta ทางฝั่งประเทศเมียนมา เมื่อเวลา 18.15 น. วานนี้
‘ยังคงมีเครื่องบินรบ บินเหนือพื้น ที่หมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง’ มาร์ก ฟาร์แมเนอร์ หัวหน้า องค์กรเคลื่อนไหว ด้านสิทธิมนุษยชน ‘Burma Campaign UK’ กล่าวกับ นักข่าวรอยเตอร์ ด้วย ความกังวล ต่อชะตากรรม ของชาวกะเหรี่ยง ที่ต้องเผชิญ กับการถูกกองทัพเมียนมาโจมตีทางอากาศในขณะนี้
จำนวนผู้เสียชีวิตแยกรายภาค/รัฐ มีดังนี้
– ภาคมัณฑะเลย์ 79 ราย
– ภาคย่างกุ้ง 31 ราย
– ภาคสะกาย 15 ราย
– ภาคตะนาวศรี 10 ราย
– ภาคพะโค 9 ราย
– ภาคมะกวย 6 ราย
– ภาคอิรวดี 6 ราย
– รัฐชาน 6 ราย
– รัฐมอญ 4 ราย
– รัฐคะฉิ่น 3 ราย
มีผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยกว่า 18 ปี ถึง 14 ราย ผู้เสียชีวิต ที่อายุน้อยที่สุด 11 ขวบ เป็น เด็กผู้หญิงในเมือง เมาะละแหม่ง รัฐมอญ กองทัพพม่า ผู้เสียชีวิตที่ อายุมากที่สุด 59 ปี อยู่ในเมืองซิ่นก่าย ภาคมัณฑะเลย์
รายละเอียดผู้เสียชีวิตแยกเป็นรายเมืองหรืออำเภอ เมืองที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด คือเมืองมัณฑะเลย์ (ภาคมัณฑะเลย์) มีผู้เสียชีวิต 33 ราย ผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยที่สุดของที่นี่ 17 ปี มี 2 ราย ผู้เสียชีวิตที่อายุมากที่สุด 49 ปี 1 ราย
มยินจาน และเมืองกุ๊ต (โมก๊ก) ในภาคมัณฑะเลย์ เป็น 2 เมืองที่มีผู้เสียชีวิต 8 รายเท่ากัน มากเป็นอันดับ 2 โดยในมยินจาน ผู้เสียชีวิตอายุน้อยที่สุด 14 ปี ส่วนที่เมืองกุ๊ต ผู้เสียชีวิต 6 ใน 8 คน ไม่มีข้อมูล
จังหวัดเกาะสอง ในภาคตะนาวศรี มีผู้เสียชีวิต 7 ราย มากเป็นอันดับ 3 ผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยที่สุดในเกาะสอง 15 ปี มากที่สุด 47 ปี
เมืองที่มีผู้เสียชีวิต 6 คน มี 4 เมือง ได้แก่
– เมืองมัตตะยา (มัณฑะเลย์) ผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยที่สุดในเมืองนี้ 17 ปี
– เมืองพะสิม (อิรวดี) ผู้เสียชีวิตครึ่งหนึ่งของที่นี่อายุน้อยกว่า 20 ปี โดยเป็นเด็กอายุ 16 ปี 2 คน และวัยรุ่นอายุ 17 ปี 1 คน
– ย่านดะละ (ย่างกุ้ง) ผู้เสียชีวิตอายุน้อยที่สุด 19 ปี
– ย่านตะโก่งใต้ (ย่างกุ้ง) ไม่มีผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยกว่า 20 ปี
เมืองที่มีผู้เสียชีวิต 5 คน มี 3 เมือง ได้แก่
– ย่านอินเส่ง (ย่างกุ้ง) ไม่มีผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยกว่า 20 ปี
– เมืองอมรปุระ (มัณฑะเลย์) ผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยที่สุด 15 ปี
– เมืองกะเล (สะกาย) ไม่มีผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยกว่า 20 ปี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
